สายลมที่หวังดี - สุเมธ

Geography

Phitsanulok province covers some 10,584.5 sq. km. The riverside provincial capital is 377 km. North of Bangkok. Phitsanulok is situated on the geographical and administrative line uniting the central and northern regions. Phitsanuloke, located in Central Northern Thailand is a modern city. Ideal as a stepping stone for the Northern visitors attractions including Sukothai.
Phitsanulok was the birthplace of King Naresuan the Great of Ayuthaya (reign : 1590 - 1605), and his brother Prince Ekathosarot. Phitsanulok has long been an important center for political and strategic reasons. Phitsanulok was a major center of recruitment when Ayuthaya waged war with Burma, and was the capital of Thailand for 25 years during the 1448-1488 reign of Ayuthaya’s King Boromtrailokanat.
The climate of Phitsanulok is generally hot and humid. It borders with Uttaradit in he North, Pichit in the south, Loei and Phetchabun in the East, Kamphaeng Phet and Sukhothai in the West. Covering an area of 10,815.8 sq.km., the province is divided into 9 Amphoes : Muang , Bang Rakam , Nakhon Thai , Phrom Priram , Wat Bot - BangKrathum , Chat Trakan , Noen MaPrang , Wang Thong

City Attraction

Wat Phra Si Rattana Mahathat his monastery commonly called by the inhabitants as "Wat Yai" is the most important monastery of Phitsanulok, the home of the famous Phra Buddha Chinnarat. It is located at the foot of Naresuan Bridge on the city side of the river.The monastery was built in the reign of Phra Maha Thamma Racha I (Phraya Lithai) In 1357 A.D. It houses the Phra Buddha Chinnarat regarded as the most beautiful Buddha image in Thailand. It is cast in the attitude of subduing evil. Later, in 1631, King Ekatosarot graciously bestowed some of his gold regalia to be beaten into gold - plate and applied them to the image worth his own hands, creating its most beautiful Buddha image. There are many other beautiful and noteworthy items in the monastery compound. The mother - of - pearl inlaid wooden doors of Vihara are especially splendid, and were built by King Boromkot in 1756 as a dedication to phra Buddha Chinarat. Behind the Vihara, there is a large Prang 36 meters high, with a staircase leading up to the niche containing the Buddha relics. In front of the Prang, there is Phra Attharos, and on the 9 room Vihara slope. There remains only the newly-renovated Buddha image.
Wat Ratchaburana nad Wat Nang Phya Is located on the eastern bank of the Nan river, near Wat Phra Si Rattana Mahathat to the south. These two monasteries, assumed to be built when Phitsanulok City was ruled by King Boromtrailokanat, have linking compounds. Wat Nang Phya has temple or bot but it is known for the so-called "Phra Nang Phya" votive tablets special fine form of the 3-head nagas decorated on their eaves.
King Naresuan the Great Shrine The shrine is located in the compound of the Phitsanulok Phittayakom school, and depicts the seated king ceremoniously declaring Ayuthaya's independence from Burma. The shrine was constructed on the site of the Channdra Palace where King Naresuan was born in 1555.

Saturday, April 21, 2007

Somdej Phra Jirada












พระสมเด็จจิตรลดา, พระกำลังแผ่นดิน พระพิมพ์ฝีพระหัตถ์ขององค์ประมุขของชาติ

ในช่วงเวลาก่อนที่จะทรงมีพระราชดำริ ให้สร้างพระพุทธนวราชบพิตร ในราวปีพุทธศักราช 2508 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายไพฑรูย์ เมืองสมบูรณ์ ข้าราชการกองหัตถ์ศิลป์ กรมศิลปากรเข้ามาเป็นผู้แกะแม่พิมพ์ พระพุทธรูปพิมพ์นี้ในพระราชฐาน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และได้ทรงตรวจพระพุทธศิลป์ฯ ของพระพุทธรูปพิมพ์องค์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้พุทธศิลป์ที่สมบูรณ์จนเป็นที่พอพระราชหฤทัย พระพุทธรูปพิมพ์ที่แกะถวายนั้นเป็นพระพุทธรูปพิมพ์ปางนั่งสมาธิแบบขัดราบ พระบาทขวาทับพระบาทซ้าย ประทับเหนือดอกบัวบาน บน 5 กลีบ ล่าง 4 กลีบ ตรงกับรัชกาลที่ 9 รูปทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ขนาดกว้าง 2 ซม. สูง 3 ซม. ส่วนพระพิมพ์องค์เล็กขนาดกว้าง 1.2 ซม. สูง 1.9 ซม. ทรงมีพระกระแสรับสั่งให้แกะแม่พิมพ์เพิ่มอีกภายหลังจากนั้นไม่มากนัก เพื่อพระราชประสงค์ในการพระราชทานให้แก่เด็กๆพระองค์ได้ทรงสร้างขึ้นด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เองทั้งสิ้น ตั้งแต่การถอดแบบแม่พิมพ์ ทรงผสมมวลสาร ทรงเทลงแม่พิมพ์ ทรงตกแต่งองค์พระพิมพ์เพื่อให้ดูงดงามทั้งหมดนี้ โดยทรงใช้เวลาหลังจากพระอักษร และทรงงานอันเป็นพระราชภารกิจในตอนดึก ประกอบด้วยผงมงคลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั้งส่วนในพระองค์และวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์จากทุกจังหวัด ที่พุทธศาสนิกชนทั่วพระราชอาณาจักรปฏิบัติบูชาสืบเนื่องกันมาเป็นเวลาช้านาน
พระราชประสงค์ ในการสร้างพระพุทธรูปพิมพ์นี้

สืบเนื่องมาจากที่พระองค์ ได้รับทูลเกล้าฯ
ถวายพวงมาลัยดอกไม้สดจากประชาชนในการเสด็จพระราชดำเนิน เปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธปฏิมากรแก้วมรกต และได้ทรงแขวนไว้ ณ ที่บูชาองค์พระพุทธรูปปฏิมากรตลอดเทศกาล จนถึงคราวที่เสด็จพระราชดำเนินเปลี่ยนเครื่องทรงใหม่ ทรงเห็นเป็นสำคัญที่ควรเก็บดอกไม้แห้งเหล่านี้ไว้ให้เป็นประโยชน์ เพื่อเป็นสิริมงคล ประโยชน์ที่จะใช้ทรงมีพระราชวินิจฉัยว่า สมควรใช้เป็นส่วนผสมสำหรับสร้างเป็นพระพุทธรูปพิมพ์ โดยมีพระราชประสงค์เป็นเบื้องต้น เพื่อจะบรรจุที่ฐานบัวหงายขององค์พระพุทธนวราชบพิตร และพระราชทานแก่ข้าราชบริพารฝ่ายในที่ถวายงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท รวมทั้งราชองค์รักษ์ประจำเท่านั้น

เพื่อให้ได้พุทธคุณ เพียงเฉพาะดอกไม้แห้งจากพวงมาลัยดังกล่าว คงไม่พอเพียงที่จะทำเป็นองค์พระได้ จะต้องมีส่วนผสมที่ประสานให้เป็นเนื้อเดียวกันและทรงเทพิมพ์ได้สวยงาม รวมทั้งวัตถุมงคล จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วพระราชอาณาจักรด้วย จึงจะได้อำนาจแห่งพระพุทธคุณโดยสมบูรณ์ จึงทรงให้เจ้าพนักงานรวบรวมเส้นพระเจ้า (เส้นพระเกศา) หลังจากทรงเครื่องใหญ่ (ตัดผม) ดอกไม้แห้งจากมาลัยที่แขวนพระมหาเศวตฉัตร และด้ามพระขรรค์ชัยศรี ในพระราชพิธีฉัตรมงคล สีซึ่งขูดจากผ้าใบที่ทรงเขียนภาพฝีพระหัตถ์ ชัน และ สีซึ่งทรงขูดจากเรือใบพระที่นั่งขณะที่ทรงตกแต่งเรือใบพระที่นั่ง ส่วนผสมอันเป็นมงคลที่เรียกว่า ส่วนในพระองค์

ส่วนที่มาจากจังหวัดต่างๆ อันเป็นวัตถุมงคลที่ได้มาจากปูชนียสถาน หรือพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพบูชาในแต่ละจังหวัดอันได้แก่
ดิน หรือ ตะไคร่น้ำจากปูชนียสถาน เปลวทองคำ ปิดพระพุทธรูป ผงธูปหน้าที่บูชาและน้ำจากบ่อศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้เคยนำมาใช้เป็นน้ำสรงบูรธาภิเษก ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

No comments: